ฮอกกี้น้ำแข็ง กีฬาที่ไม่ได้มีแค่ในเมืองหนาว
หลายคนคงเคยได้ยินกีฬาที่ชื่อว่า ฮอกกี้น้ำแข็ง ที่เป็นกีฬาในรูปแบบการแบ่งทีมที่ต้องเล่นบนพื้นน้ำแข็ง โดยเป็นที่นิยมมากในแถบพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นตามธรรมชาติ ซึ่งต่อมามีการพัฒนาสร้างลานน้ำแข็งในร่มขึ้นในประเทศไทย กีฬาชนิดนี้จึงเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ถึงแม้จะยังไม่เป็นที่คุ้นเคยเท่ากับกีฬาหลาย ๆ ชนิดในบ้านเรา แต่ใครจะรู้บ้างว่าประวัติเกี่ยวกับฮอกกี้น้ำแข็งของไทยนั้นมีมานานกว่า 40 ปี โดยได้มีการจัดตั้งสมาคมกีฬาสเกตน้ำแข็งแห่งประเทศไทยครั้งแรกขึ้นในปี พุทธศักราช 2519 และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น สมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย
ฮอกกี้น้ำแข็งเล่นอย่างไร ไปทำความรู้จักกัน
ฮอกกี้น้ำแข็งเป็นกีฬาประเภททีม ที่ต้องใช้ความเร็วและทักษะในการเล่นเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ โดยแต่ละทีมจะมีผู้เล่น 5 คน และผู้รักษาประตู 1 คน (รวมเป็น 6 คน) ทีมไหนทำแต้มได้มากกว่าจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งแต้มจะได้จากการใช้ไม้ฮอกกี้ตีลูกพัค (puck) เข้าประตู ระยะเวลาในการเล่นจะมี 3 ช่วงโดยแบ่งเป็นช่วงละ 20 นาที ถ้าแต้มเสมอเมื่อครบเวลา 60 นาที สามารถต่อเวลาได้อีก 5 นาที ถ้าต่อเวลาแล้วแต้มยังเท่ากันอีกก็ให้ยิงลูกโทษจนกว่าจะรู้ผล คล้ายกับกติกาของฟุตบอล
ถึงแม้กติกาจะดูง่าย ๆ แต่อย่าลืมว่าเรากำลังพูดถึงกีฬาที่เล่นบนพื้นน้ำแข็งดังนั้นการทรงตัว การวิ่ง และการเคลื่อนที่นั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก นักกีฬาชนิดนี้จึงต้องรักษาร่างกายให้แข็งแรง สร้างกล้ามเนื้อ สร้างมวลกระดูก ให้มีความพร้อมสำหรับการแข่งขันอยู่เสมอ รวมทั้งการใส่อุปกรณ์ป้องกันต่าง ๆ ให้ครบถ้วนก็มีความจำเป็นสำหรับกีฬานี้เช่นกัน
กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งก็เหมือนกับกีฬาชนิดอื่น ๆ ที่ต้องใช้พละกำลัง ความแข็งแรง สมาธิ วินัยในการฝึกซ้อม และการที่กีฬาชนิดนี้ เป็นกีฬาประเภททีมจึงทำให้เป็นกีฬาที่สร้างความสามัคคีได้อีกด้วย
การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องนำไปสู่ การพัฒนาทีมที่ก้าวไกล
ถึงแม้ประเทศไทยจะไม่ได้เป็นประเทศเมืองหนาว ไม่ได้มีลานน้ำแข็งโดยธรรมชาติ แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดยการสร้างลานสเกตน้ำแข็งในร่ม ซึ่งปัจจุบันมีลานสเกตน้ำแข็งหลาย ๆ ที่ ๆ สามารถให้เหล่านักกีฬาใช้ฝึกซ้อมได้ โดยฝีมือของนักกีฬาไทยนั้นก็ไม่ได้ด้อยกว่า ประเทศเมืองหนาวหรือประเทศอื่น ๆ เลย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าค่าใช้จ่ายในการเช่าลานสเกตน้ำแข็งแต่ละครั้งนั้นเป็นจำนวนเงินที่สูงอยู่ ซึ่งถ้าทีมนักกีฬาไทยมีลานสเกตน้ำแข็งที่สามารถฝึกซ้อมเองได้โดยไม่เสียเงิน ก็น่าจะประหยัดงบตรงนี้และสามารถนำเงินไปพัฒนาทีมในด้านอื่น ๆ ได้
กีฬาทุกชนิดนอกจากความมีวินัย ความขยันในการฝึกซ้อม ของผู้เล่นเองแล้ว การมีเงินทุนสนับสนุนเพื่อเติมเต็มความจำเป็นต่าง ๆ ของนักกีฬาก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน เพื่อที่นักกีฬาจะได้มีสมาธิต่อการฝึกซ้อมไม่ต้องคอยกังวลในเรื่องต่าง ๆ นอกเหนือจากหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งจะทำให้ทัพนักกีฬาไทยมีความพร้อมที่จะไปชิงชัยกับนานาประเทศได้