นักเตะที่แม้แต่มะเร็งยังทำอะไรไม่ได้อย่าง โฮนาส

ถือเป็นข่าวใหญ่ของแฟนบอลชาวอังกฤษทันทีในปี 2014 เมื่อโฮนาส กูเตียร์เรซได้ประกาศว่าเขาป่วยด้วยโรคมะเร็งอัณฑะในขณะที่ยังเป็นผู้เล่นให้กับนิวคาสเซิ่ลและนอริช ซิตี้จนเป็นที่น่าตกใจของแฟนสาลิกาดง ก่อนที่เขาจะรักษาตัวกลับมาได้ภายในปีเดียวและกลายเป็นฮีโร่ให้แก่ชาวจอร์ดี้ แม้ว่าจุดจบของเขากับสโมสรต้นสังกัดจะจบลงอย่างไม่เป็นที่ประทับของแฟน ๆ รวมทั้งการดูแลของสโมสรที่น่าผิดหวังตรงข้ามกับฟอร์มการเล่นของเขาที่นิวคาสเซิ่ลเลยทีเดียว

สไปเดอร์แมนของทูนอาร์มี่

ปีกทีมชาติอาร์เจนติน่าได้ก้าวมาสู่รังเซนต์ เจมส์ พาร์คในปี 2008 หลังจากที่โชว์ผลงานได้ดีในลีกลาลีกาสเปนกับทีมรีล มาล์ยอร์กา ทันทีที่เขาได้เปิดตัวในเกมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นเขาโชว์ฟอร์มได้ดีมากจนเป็นที่ชื่นชอบของแฟน ๆ และนักวิจารณ์ในเวลานั้นเลยทีเดียว ก่อนที่โฮนาสกับโฆเซ่ เอนริเก้จะกลายเป็นขุมกำลังหลักในฝั่งซ้ายของสาลิกาดงจนทำให้ทีมจากแดนอีสานสามารถจบฤดูกาลในอันดับที่ 5 พร้อมกับไปได้เล่นฟุตบอลยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี แต่ทว่าเขาเริ่มมีอาการบาดเจ็บจากการมีเนื้องอกและต้องพักรักษาตัวหลังจบฤดูกาล 2013 ไป

การดูแลที่น่าผิดหวังของนิวคาสเซิ่ล

หลังจากที่โฮนาสถูกส่งไปเล่นกับนอริช ซิตี้แทนเขาก็ได้เปิดเผยกับสื่อว่าตัวเองเป็นมะเร็งอัณฑะและต้องเข้ารับการรักษาตัวนานเกือบ 1 ปีที่ประเทศอาร์เจนติน่าและไม่ได้ลงเล่นให้กับทีมนกขมิ้นมากนักจากการถูกปลดของผู้จัดการทีมอย่างคริส ฮิวตันอดีตนายใหญ่ของเขาเองที่นิวคาสเซิ่ล โดยต่อมามีการเปิดเผยจากทางฝั่งของครอบครัวว่าทางสโมสรจากแดนอีสานกลับทอดทิ้งเขาในช่วงเวลาที่ต้องสู้กับโรคร้าย จนแม่ของโฮนาสเคยคิดท้อแท้และคิดสั้นเลยทีเดียว

การกลับมาสู่นิวคาสเซิลหลังจากจากรักษาโรคมะเร็งเป็นที่เรียบร้อยแล้วเกิดขึ้นในปี 2015 รวมทั้งได้เป็นกัปตันทีมในเกมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหลังจากถูกส่งมาเป็นตัวสำรอง ก่อนที่เขาจะกลายเป็นฮีโร่ทำให้ทีมรอดตกชั้นได้ในวันสุดท้ายของฤดูกาลเมื่อนิวคาสเซิลเปิดบ้านเจอกับเวสต์ แฮม ยูไนเต็ดผู้มาเยือนจากลอนดอน โดยเขาเป็นผู้ทำประตูให้ทีมขึ้นนำเป็น 2-0 พร้อมพาทีมจบในอันดับที่ 15 ของตาราง แต่สุดท้ายแล้วจะเป็นสโมสรที่ทำร้ายจิตใจเขาอีกครั้ง เมื่อทางผู้บริหารเลือกจะไม่ต่อสัญญากับปีกชาวอาร์เจนติน่าคนนี้และยอมปล่อยตัวออกจากทีมไปแบบไม่มีค่าตัว

แม้ว่าตอนจบของโฮนาสกับนิวคาสเซิ่ลจะเป็นไปอย่างไม่น่าประทับใจนักจากการกระทำของสโมสร แต่อาชีพของเขายังก้าวต่อไปโดยการไปร่วมทีมเดปอติโว่ ลา คอนรุนญ่า ก่อนจะกลับไปเล่นให้กับสโมสรในบ้านเกิดอย่างอินดีเพนเดนเต้และแอตแลนติโก้ แบนฟิลด์ที่เป็นต้นสังกัดในปัจจุบันของปีกไอ้แมงมุมที่ยังมีไฟลงเล่นในวงการลูกหนังแม้จะอายุเข้า 37 ปีแล้วก็ตาม