คริกเก็ตอีกหนึ่งกีฬา ที่น่าสนใจ
คริกเกต (Cricket) เป็นกีฬาอีกหนึ่งชนิดที่ชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้นหูคนไทย แต่ในต่างประเทศนั้นกีฬาชนิดนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากเลยทีเดียว โดยกีฬาชนิดนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ ต่อมาในสมัยล่าอาณานิคมเมื่อชาวอังกฤษเข้ายึดครองประเทศใด ก็มีการนำกีฬานี้ไปเล่นด้วยทำให้เป็นที่รู้จักในหลาย ๆ ประเทศจนเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย
ประวัติกีฬาคริกเก็ตเป็นมาอย่างไร ไปดูกัน
ว่ากันว่าประวัติศาสตร์ของกีฬาคริกเก็ตนั้นมีมายาวนานกว่ากีฬาฟุตบอลเสียอีก โดยช่วงเวลาเริ่มต้นที่แท้จริงนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะก่อนปี ค.ศ. 1550 ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ เพราะมีพยานที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวได้ว่าเขาเล่นกีฬาชนิดนี้เมื่อยังเป็นเด็กในปี ค.ศ. 1550 หลังจากนั้นความนิยมก็ขยายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของอังกฤษ และเมื่อคนอังกฤษขยายอาณานิคมไปยังดินแดนใดก็นำกีฬาชนิดนี้ไปเล่นด้วยจนทำให้เกิดความนิยมในหลาย ๆ พื้นที่จนปัจจุบัน
คริกเก็ตเข้ามาในไทยครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 1890 ซึ่งตรงกับรัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี และได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) นำกีฬาชนิดนี้เข้ามาเล่นในพระราชวังซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นเล่นคริกเก็ตในไทย ต่อมาในปี ในปี ค.ศ. 1972 ได้มีการตั้ง “ไทยแลนด์คริกเก็ตลีก” ขึ้นมาเนื่องจากมีทีมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด หลังจากนั้นได้มีการเข้าร่วมแข่งระดับนานาชาติมากขึ้น ในปีค.ศ. 2007 จึงได้มีการจัดตั้ง“สมาคมคริกเก็ตแห่งประเทศไทย” แทน “ไทยแลนด์คริกเก็ตลีก” และในปี ค.ศ. 2015 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “สมาคมกีฬาคริกเก็ตแห่งประเทศไทย” จนปัจจุบัน
ภาพรวมกีฬาคริกเก็ตในไทย
ถึงแม้หลายคนจะยังไม่เคยได้ยินชื่อกีฬาชนิดนี้มาก่อน แต่ก็มีคนไทยอีกไม่น้อยที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการนี้ โดยกีฬาคริกเก็ตในไทยนั้นค่อย ๆ ขยายกลุ่มผู้สนใจมากขึ้นซึ่งตอนนี้ทีมชาติไทยมีทั้งทีมชายและหญิง ที่มีผลงานอยู่ในอันดับที่ดีและมีแนวโน้มพัฒนาต่อไปได้เรื่อย ๆ ถ้ามีคนรู้จักในวงกว้างมากขึ้นก็น่าจะมีส่วนที่จะทำให้พัฒนาไปได้มากขึ้น โดยในต่างประเทศมีลีกอาชีพมากมายคล้ายกับฟุตบอลซึ่งค่าตัวของนักกีฬาก็แพงเช่นเดียวกันด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่น่าสนใจ
กีฬาคริกเก็ตถึงแม้จะยังไม่เป็นที่นิยมมากนักในไทยเมื่อเทียบกับกีฬาอื่น ๆ แต่ก็เป็นกีฬาที่มีความน่าสนใจไม่น้อยไม่ใช่เฉพาะโอกาสในการเล่นลีกที่ต่างประเทศเท่านั้น แต่การดูกีฬาชนิดนี้ให้เข้าใจก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ถึงแม้บางคนจะบอกว่าน่าเบื่อเกินไปหรือมีความเห็นต่าง ๆ ไปในเชิงลบแต่สิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น เราจึงควรลองศึกษาดูด้วยตัวเองสักครั้ง ถ้าไม่ใช่แนวที่ชอบอย่างน้อยก็ถือว่าได้รู้จักกีฬาเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง